แมวหายใจแรง...ปกติหรือไม่? 6 สาเหตุที่พบบ่อยที่เจ้าของควรรู้
- EMUNE
- 3 ต.ค.
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 4 ต.ค.

เคยไหมครับที่เห็นน้องแมวนอนอยู่เฉยๆ แต่หน้าท้องกลับกระเพื่อมขึ้นลงเร็วผิดปกติ? หรือบางครั้งก็หายใจแรงเหมือนเหนื่อย ทั้งที่ไม่ได้วิ่งเล่นเลย? อาการ "แมวหายใจแรง" เป็นสิ่งที่เจ้าของแมวหลายคนกังวล และอาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่
บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจความแตกต่างระหว่างการหายใจปกติและผิดปกติ พร้อมเจาะลึก 6 สาเหตุหลักที่ทำให้แมวหายใจแรง เพื่อที่คุณจะสามารถสังเกตและรับมือได้อย่างทันท่วงทีครับ
การหายใจของแมวแบบไหนที่เรียกว่า "ปกติ"
ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจการหายใจที่ปกติของน้องแมวกันก่อนครับ โดยปกติแล้ว
อัตราการหายใจปกติของแมวขณะพักผ่อนจะอยู่ที่ประมาณ 20-30 ครั้งต่อนาที
การหายใจปกติจะดูสงบและสม่ำเสมอ สามารถสังเกตได้จากการเคลื่อนไหวของช่องอกและหน้าท้องที่ขึ้น-ลงอย่างนุ่มนวล
แต่ถ้าแมวของคุณเพิ่งวิ่งเล่น หรือเพิ่งตื่นจากฝันร้าย ก็อาจจะหายใจเร็วขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
แต่หากอาการหายใจเร็วและแรงยังคงอยู่เป็นเวลานานโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน นั่นคือสัญญาณว่าคุณต้องเริ่มสังเกตอย่างจริงจังแล้วครับ
6 สาเหตุหลักที่ทำให้แมวหายใจแรงผิดปกติ
หากพบว่าแมวของคุณมีอาการหายใจแรง ลองพิจารณาสาเหตุเหล่านี้ดูนะครับ
อากาศร้อน หรือภาวะขาดน้ำ
แมวระบายความร้อนได้ไม่ดีเท่าคน เมื่ออุณหภูมิรอบข้างสูงเกินไป ร่างกายจะพยายามลดอุณหภูมิด้วยการหายใจเร็วและหอบ หากน้องแมวอยู่ในห้องที่อากาศไม่ถ่ายเท หรือขาดน้ำ ก็อาจมีอาการหายใจแรงได้ครับ
วิธีสังเกต: แมวจะซึม ไม่ร่าเริง และหอบหายใจรุนแรง หากมีอาการหนัก อาจถึงขั้นช็อกได้
วิธีรับมือ: ย้ายแมวไปยังบริเวณที่เย็นกว่า จัดหาน้ำสะอาดให้ดื่ม และอาจใช้พัดลมช่วยระบายอากาศ หากอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบสัตวแพทย์
ความเครียด หรืออาการตกใจ
แมวเป็นสัตว์ที่อ่อนไหวต่อสิ่งรอบตัวมาก การที่แมวต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย เช่น การเดินทาง, เสียงดัง, หรือการมีสัตว์เลี้ยงตัวใหม่เข้ามาในบ้าน อาจทำให้เกิดความเครียดและหายใจเร็วขึ้นชั่วคราวได้
วิธีสังเกต: อาการหายใจแรงจะเกิดควบคู่ไปกับอาการอื่นของความเครียด เช่น หูตก, หางตก, พยายามหลบซ่อนตัว วิธีรับมือ: พยายามสร้างสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและปลอดภัยให้แมว และหาเวลาเล่นกับเขาเพื่อช่วยลดความเครียด
โรคทางเดินหายใจ
โรคระบบทางเดินหายใจต่างๆ เช่น ไข้หวัดแมว, หอบหืด, หรือการติดเชื้อในปอด ล้วนเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้แมวหายใจลำบากและหายใจแรงได้ครับ
วิธีสังเกต: อาการหายใจแรงจะมาพร้อมกับอาการอื่นๆ เช่น จาม, มีน้ำมูก, ไอ, หรือมีเสียงหายใจที่ผิดปกติ วิธีรับมือ: ควรพาแมวไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม
โรคหัวใจ หรือภาวะน้ำท่วมปอด
โรคหัวใจเป็นสาเหตุที่อันตรายและพบบ่อยในแมว โดยเฉพาะในแมวสูงอายุหรือแมวพันธุ์ใหญ่ เมื่อหัวใจทำงานได้ไม่เต็มที่ อาจเกิดภาวะน้ำคั่งในปอด ทำให้แมวหายใจลำบากและต้องหายใจแรงขึ้นเพื่อชดเชย
วิธีสังเกต: เป็นอาการที่อันตรายมาก สังเกตได้จากแมวที่ชอบนอนราบกับพื้นโดยยืดคอและแขนขาไปข้างหน้า, หายใจหอบรุนแรง, เหงือกหรือลิ้นมีสีม่วง
วิธีรับมือ: นี่คือภาวะฉุกเฉินครับ ควรรีบพาแมวไปพบสัตวแพทย์ทันที
โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว (FIP)
FIP เป็นโรคที่อันตรายและยังไม่มีวัคซีนป้องกัน การติดเชื้อไวรัสนี้สามารถส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานของร่างกายได้หลายระบบ รวมไปถึงการหายใจด้วย โดยเฉพาะ FIP ชนิดเปียก (Wet FIP) ที่จะทำให้มีของเหลวสะสมในช่องอก ส่งผลให้แมวหายใจลำบากและหายใจแรง
วิธีสังเกต: แมวจะแสดงอาการหลากหลาย เช่น มีไข้สูง, ซึม, เบื่ออาหาร, ท้องบวมผิดปกติ (ใน FIP ชนิดเปียก) หรือมีอาการทางระบบประสาท (ใน FIP ชนิดแห้ง) หากแมวมีอาการเหล่านี้ร่วมกับอาการหายใจแรง ควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์ทันที
วิธีรับมือ: หากสงสัยว่าแมวเป็นโรค FIP ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อวินิจฉัยและวางแผนการรักษาอย่างเร่งด่วน หรือสอบถามเจ้าหน้าที่ของเราได้
โรคที่เกี่ยวข้องกับช่องท้อง
โรคที่ทำให้ช่องท้องขยายใหญ่ขึ้น เช่น ภาวะท้องมาน หรือเนื้องอกในช่องท้อง สามารถไปเบียดกับกระบังลมและปอด ทำให้แมวหายใจลำบากและหายใจแรงได้เช่นกันครับ
วิธีสังเกต: หน้าท้องจะบวมผิดปกติ, มีอาการเจ็บปวดเมื่อสัมผัส, หรือไม่ยอมให้ถูกจับบริเวณท้อง
วิธีรับมือ: การตรวจวินิจฉัยจากสัตวแพทย์เป็นสิ่งจำเป็นที่สุด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและวางแผนการรักษา
สัญญาณอันตรายที่ต้องรีบพาแมวไปพบสัตวแพทย์ทันที
หากคุณสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ในแมวของคุณ อย่าลังเลที่จะรีบพาเขาไปพบสัตวแพทย์ทันทีนะครับ
หายใจหอบรุนแรง แม้จะอยู่ในภาวะปกติ
เหงือกหรือลิ้นมีสีซีดหรือม่วงคล้ำ
อ่อนแรง ไม่ยอมเดินหรือเคลื่อนไหว
ไม่ยอมกินอาหารหรือน้ำ
ไอต่อเนื่อง








